หากเอ่ยถึงโรคที่คนสูงวัยหลายคนป่วยกัน ก็คงหนีไม่พ้นโรคอัลไซเมอร์อย่างแน่นอน โดยโรคความจำเสื่อมนั้นถือเป็นโรคที่อันตรายอย่างยิ่ง แม้ไม่ทำให้ถึงชีวิต ทว่าก็ทำให้ผู้ป่วยสูญเสียความทรงจำ ความรับรู้หรือสำนึกการช่วยเหลือตนเอง เนื่องจากเซลล์สมองได้ถูกทำลายลงไป หากใครที่ต้องรับบทหนักในการดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์นั้น มีวิธีดูแลจิตใจดังต่อไปนี้
1.หมั่นศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ให้มาก
หลายๆ คนที่ต้องดูแลผู้ป่วยโรคนี้ ควรหาหนังสือที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้มาอ่านจะดีที่สุด เนื่องจากว่าการมีพื้นฐานความรู้ในโรคที่คุณต้องเผชิญจะทำให้สามารถรับมือกับอาการของโรคที่เกิดขึ้นได้อย่างมีสติ โดยปัจจุบันมีหนังสือที่ตีพิมพ์เกี่ยวกับโรคเหล่านี้จำนวนมาก สำหรับการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจทั้งผู้ที่ป่วยเองและผู้ที่ต้องดูแลคนป่วย อย่างไรก็ดีหลายคนอาจจะประสบกับปัญหาไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือมากนัก ดังนั้นคุณอาจเลือกอ่านบทความจากเว็บไซต์ต่างๆ ก็ได้เช่นกัน นอกจากจะศึกษาหาความรู้เองแล้วการที่คุณอธิบายอาการของโรคให้ผู้ป่วยได้ฟังก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากผู้ป่วยที่รับรู้ว่าโรคของตนเองนั้นมีสิทธ์ที่จะพัฒนาอย่างไร จะทำให้เตรียมใจพร้อมรับมือกับอาการป่วยได้ดีขึ้น
2.หากิจกรรมคลายเครียด
การหากิจกรรมคลายเครียดถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ดูแลอย่างยิ่ง แม้ว่าคุณอาจต้องใช้เวลาอยู่กับผู้ป่วยตลอดทั้งวันก็ตาม แต่ก็ไม่ควรลืมที่จะแบ่งเวลามาทำสิ่งที่ตนเองนั้นชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การดูซีรีส์ หรือการฟังเพลง โปรดจำไว้ว่าการผ่อนคลายจิตใจของตนเองก็คือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน หากว่าจิตใจของคุณสดชื่นแจ่มใส คุณก็จะสามารถดูแลผู้ป่วยให้มีสุขภาพจิตที่สดใสตามไปด้วย
3.ทำกิจกรรมร่วมกับผู้ป่วย
ลองค้นหาดูดีๆ ว่ากิจกรรมใดที่คุณเคยทำร่วมกันกับผู้ป่วยแล้วมีความสุข บางครั้งอาจเป็นการเปิดวิทยุแล้วร้องเพลงตามไปด้วยกันก็ได้ หรือในกรณีที่ผู้ป่วยชอบฟังเพลงเก่าๆ สมัยยังสาว คุณอาจจะเลือกซื้อเครื่องเล่นเพลงในยุคนั้นมาเปิดให้ผู้ป่วยฟังเพื่อเพิ่มความสุขในการทำกิจกรรมร่วมกันจะดีที่สุด คุณเองก็จะผ่อนคลายมากขึ้นที่เห็นผู้ป่วย ซึ่งเป็นคนที่คุณรักนั้นมีความสุข
สำหรับใครที่ต้องดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือการดูแลจิตใจตนเอง พยายามบอกกับตนเองว่าหากคุณไม่มีพลังใจที่เข้มแข็งแล้วจะดูแลผู้ป่วยได้อย่างไร ดังนั้นหมั่นสร้างพลังใจให้เต็มเปี่ยม แล้วคุณจะไม่รู้สึกเครียดหรือกดดันกับการดูแลผู้ป่วยอย่างแน่นอน